วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ทรงผมของวัยรุ่น


ทรงผมของวัยรุ่น


1. สวยหวานกับเปียก้างปลา

          ทรงผมเปียเป็นเทรนด์ฮิตที่เรียกได้ว่าอมตะนิรันดร์กาล แถมยังเป็นทรงผมที่ทำให้สาว ๆ ดูสดใสคิกขุอีกต่างหาก โดยเฉพาะกับสาววัยทีน ลองถักเปียก้างปลายาวลงมาเคลียหลัง หรือจะปัดเก๋ ๆ ไปด้านข้างที่คุณถนัดก็ได้ แค่นี้ก็ดูสวยหวานแอบมีลุคคุณหนูเบา ๆ แล้วจ้า

แบบทรงผม

เครดิต : Instagram emrob3393

   2. สวยซ่าด้วยพิกซี่คัท (Pixie cut)

          สำหรับสาววัยทีนที่อยากดูสวยเฉี่ยว เปรี้ยว ซนเล็ก ๆ ทรงผมสไตล์พิกซี่คัท ตัดสั้นแนบศีรษะ แต่เหลือผมด้านหน้าเอาไว้เซตเก๋ ๆ แล้วแอบทำสีผมแจ่ม ๆ เพิ่มอีกอย่าง รับรองเลยว่าซัมเมอร์นี้ไม่มีใครจี๊ดได้เท่าคุณอีกแล้ว ที่สำคัญตัดผมทรงนี้แล้วโล่งสบายหัว ไม่ต้องทนร้อนอีกต่อไปเลยนะจ๊ะ

แบบทรงผม

เครดิต : Instagram  emma_gustavson 

   3. ดิปดายสีพาสเทล (Pastel Dip-Dye)

          กลายเป็นเทรนด์ฮิตติดลมบนในพริบตาเมื่อดาราสาว ๆ หลายต่อหลายคนเปลี่ยนลุคด้วยสีผมแจ่ม ๆ อย่างสีส้มสุดจี๊ด หรือสีชมพูหวานแหวว ซึ่งแต่ละแบบก็เพิ่มสไตล์ด้วยการไล่เฉดสีปลายผมสไตล์ดิปดาย (Dip-Dye Hair) แสนเก๋เข้าไปด้วย และนาทีนี้เทรนด์ผมสีพาสเทลก็กำลังมาแรงแบบสุด ๆ ดังนั้นใครที่มั่นใจพอ และอยากเปลี่ยนลุคสร้างความแปลกใหม่ให้ตัวเองแบบสุดขั้ว ลองทำสีผมดิปดายสีพาสเทลอ่อน ๆ ดูสิคะ

แบบทรงผม

เครดิต : Instagrm andrewdavidhair 

   4. ผมยาวสไลด์ ม้วนปลาย
          
          สำหรับสาว ๆ ที่รักเส้นผมเป็นชีวิตจิตใจ ชนิดที่จ้างให้ตัดผมแพงแค่ไหนก็ไม่ยอมเด็ดขาด ก็ไม่ต้องกังวลค่ะว่าจะไม่ได้เปลี่ยนสไตล์ทรงผมตามกระแสเหมือนคนอื่น ๆ เพราะเทรนด์ผมยาว ที่ตัดแบบสไลด์ปลายผมเป็นรูปตัว V ยังคงครองใจสาววัยทีน และสาววัยอื่น ๆ อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มีผมตรงสวย ดูสุขภาพดี คุณสามารถปล่อยผมยาว ๆ ของคุณตามสบาย หรือวันไหนอยากเปลี่ยนลุคก็แค่ม้วนลอนที่ปลายผมเบา ๆ เท่านี้ก็สวยแจ่มไม่แพ้ใครแล้วจ้า

แบบทรงผม

เครดิต : Instagram  hairbykana

   5. มวยผมสไตล์เก๋ ๆ

          มีใครแอบคิดเหมือนกันไหมว่า ทรงผมมวยขมวดขึ้นไปแบบไม่ได้ตั้งใจทรงนี้ ดู ๆ ไปก็เหมือนเป็นทรงผมของสาวที่คิดไม่ออกว่าจะประดิษฐ์ประดอยทรงผมแบบไหน แถมมีเวลาน้อยเบา ๆ อีกต่างหาก แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เราก็ต้องยอมรับว่าผมทรงนี้มันแสนเก๋สุดชิคไม่เบา แถมยังทำได้ง่าย ๆ เลยด้วย

แบบทรงผม

เครดิต :  Instagram simple_real_me 

   6. เปียข้างสวยเก๋ 

          สำหรับคนที่ชื่นชอบผมเปียเป็นพิเศษ ทรงผมเปียเก็บไล่ตั้งแต่ผมหน้าไปเรื่อย ๆ แล้วรวบเป็นเปียช่อเดียวถักหลวม ๆ ไปทางด้านข้างก็เป็นทรงที่น่าลองไม่น้อยเลยเหมือนกันนะคะ ทรงนี้เซเลบฯ ชื่อดังทำกันบ่อย คงเพราะเป็นทรงที่กึ่งทางการเล็กน้อย แต่ถ้าจะทำเวลาไปออกเดทก็เหมาะเหมือนกัน

แบบทรงผม

เครดิต : Instagram imogenfoxylocks

   7. ลอนสยาย สไตล์โบฮีเมียน

          สาวที่อยากมีสไตล์เป็นของตัวเอง แถมยังแอบเซอร์เบา ๆ ทรงผมลอนสยายเป็นคลื่นห่าง ๆ สไตล์โบฮีเมียนก็น่าจะไปด้วยกันได้ดีกับบุคลิกของคุณไม่น้อยเลยล่ะค่ะ อีกทั้งผมทรงนี้ยังเป็นเทรนด์ฮิตในช่วงซัมเมอร์ปี 2014 อีกด้วยจ้า

แบบทรงผม

7 อันดับรถยนต์ที่วัยรุ่นฮิต


อันดับรถยนต์ที่วัยรุ่นฮิต


อันดับที่ 1 Toyota Supra



ประวัติ Toyota Supra


สุดยอด Super Car ที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น ยี่ห้อหนึ่งนั้นก็คือ Supra จาก Toyota นั่นเอง Supraจัดเป็นสุดยอดรถสปอร์ทขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มีชื่อเสียงในด้านความแรงจาก บล็อกเครื่องยนต์ที่สร้างชื่อเสียงที่สุด คือ JZGTE ด้วยรูปร่างหน้าตาการออกแบบที่ไม่เป็นรองใครสมรรถนะการเกาะถนน และด้วยเครื่องยนต์เพียง3,000 ซีซี เสียภาษีต่ำกว่า เส้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยกว่าแต่ให้พลังเทียบเท่ารถ Super Car ระดับ 300 กว่าแรงม้า แต่ก่อนจะมาเป็น Supra ให้พวกได้เห็นกันในปัจจุบัน จริงๆ Supra ได้สร้างตำนานความแรง มาอย่างยาวนาน มามองย้อนกลับไปในอดีตกันกว่าว่า Supra ผลิตกันขึ้นมาแล้วกี่รุ่น แต่ละรุ่นมีข้อพิเศษอย่างไรกันบ้าง


อันดับที่ 2 Nissan Skyline R34



ประวัติ Nissan Skyline R34 


ชื่อ Skyline มาจากบริษัทรถยนต์ Prince ซึ่งโดยพื้นฐานเป็นรถ 4 ประตู (Sedan) ก่อนที่บริษัทจะถูกรวมเข้ากับ Nissan-Datsun คำว่า GT-R มาจาก Gran Turismo Racer ขณะที่ GT-C จะหมายถึง Gran Turismo Berlinetta ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ในสมัยนั้น (1960-1970) นิยมใช้ชื่อตามคำย่อ ประเภทการแข่งขันของอเมริกา รถรุ่นก่อนหน้า GT-R ตัวแรกที่ออกมา คือ S54 2000 GT-Bได้เข้ามาเป็นที่ 2 ในการแข่งครั้งแรกในปี 1964 เพื่อขับเขี่ยวกับ Porsche 904 GTS รถรุ่นต่อมาคือ GT-R ตัวแรกเป็นรถ 4ประตู PGC10 2000 GT-R สามารถคว้าชัยชนะมาได้ถึง 33 ติด ภาย ปีครึ่งที่มันลงแข่งขัน แล้วมีเป้าหมายที่จะชนะรวดติดต่อกันถึง 50 สนามซ้อน ก่อนที่จะถูก Mazda Savanna RX-3 (สุดยอดแห่งรถโรตารี่ 3สูบ )คว้าชัยชนะไป GT-R ถูกหยุดผลิตเมื่อปี 1972 หลังจากที่มันได้คว้าชัยชนะไปถึง 1000 สนามแล้ว โดย รุ่นสุดท้ายในช่วงนี้คือ KPGC110 2000GT-R ที่ใช้เครื่อง S20 ผลิตกำลังได้ 160 แรงม้า ซึ่งขายได้ประมาณ 197 คันก่อนถูกหยุดเนื่องจากปัญหาน้ำมันแพง ( เหมือนตอนนี้เลย ) ส่วน Skyline เป็นรถที่ถูกผลิตอย่างต่อเนื่องในช่วง 1980 ซึ่ง Nissan ยังคงไว้ซึ่งความเป็น รถขับเคลื่อนล้อหลัง โดยขณะที่ผู้ผลิตอื่นๆได้พยายามเปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หลังจาก 16 ปีที่ Nissan หยุดผลิตรถ GT-R ไป ใน ปี 1989 Nissan ได้นำ Concept ของรถทั้งสองรุ่นมารวมกันเป็นรุ่นที่ 8 ของ Skyline คือ Skyline GT-R R32 GT-R รุ่นใหม่นี้ได้กลายมาเป็นหัวหอกในการแสดงสมรรถนะของรถยนต์ตระกูล Nissan ที่บรรจุไปด้วยเทคโนโลยีชั้นนำไว้มากมายที่หาไม่ได้ตามรถปกติทั่วไป เริ่มตั้งแต่ ระบบการควบคุมการขับเคลื่อน 4 ล้อ ATTESA-ETS ระบบควบคุมการเลิ้ยว 4ล้อ Super-Hicas ซึ่งเมื่อเทียบกับรถ Sport ยุโรปที่อยู่ใน ระดับเดียวกัน ถือว่าค่อนข้างถูกมาก ราคา 4.5 ล้านเยน พอตีเป็นราคาไทยก็ม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่ ประมาณ 4.5 ล้านบาทเช่นกัน (ภาษี 300 %) Skyline GT-R ได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วง 1990 จนมาสิ้นสุดที่ปี 2002 ตัว Skyline R34 ซึ่ง Nissan ได้ประกาศว่าจะพัฒนาแยกสายระหว่าง Skyline กับ GT-R อีกครั้ง ซึ่ง Nissan GT-R R35 เพิ่งออกสู่ตลาดรถเมื่อปลายปี 2007ที่ผ่านโดยมีสมรรถนะเทียบเคียงได้กลับ Supercar เลยทีเดียว


อันดับที่ 3 Nissan Skyline R32

Nissan Skyline GT-R R32 Hyper Godzilla

ประวัติ Nissan Skyline R32

ขึ้นชื่อว่า NISSAN SKYLINE GT-R ในแวดวงผู้ที่นิยมความเร็ว ต่างรู้จักและยอมรับกันดีถึงพละกำลัง และความสวยงาม โดยมี ไฟท้ายโดนัท เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว สำหรับรุ่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับ SKYLINE GT-R มากที่สุด คงหนีไม่พ้น SKYLINE GT-R R32
SKYLINE GT-R R32 เริ่มทำตลาดในปี ค.ศ. 1989 -1994 โดยตั้งแต่เปิดตัวออกมาก็ประสบความสำเร็จทั้งด้านยอดขาย และชัยชนะจากการแข่งขันในสนามมอเตอร์สปอร์ต ถือเป็นการชุบชีวิตให้รถตระกูล GT-R กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจาก NISSAN ยุติการผลิตรถ ในไลน์ GT-R ไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977     จุดเด่นของ SKYLINE GT-R R32 ก็คือเครื่องยนต์ที่ทรงพลังมากในยุคนั้น รวมถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ ที่ทำงานแปรผันตามการขับ และรูปทรงที่ถือว่าสวยอมตะ แม้จะผ่านเวลามากว่า 20 ปีแล้ว ก็ยังคงดูทันสมัย ด้วยรูปทรงที่ใหญ่โตดุดัน บวกกับพลังเครื่องยนต์ที่ร้อนแรงนั่นเอง ทำให้มันได้ชื่อเล่น จากบรรดานักซิ่งแดนปลาดิบว่า GODZILLA จนกลายเป็นชื่อเรียก ที่แพร่หลายในปัจจุบัน
ส่วนรถที่เรานำมาเสนอให้กับเพื่อนผู้อ่านกันในครั้งนี้ เป็นรถของ คุณเอ๋ ที่เป็น COLLECTOR ท่านนึง ที่ชอบสะสมรถสปอร์ตญี่ปุ่นมาก รถสปอร์ตที่ผ่านมือคุณเอ๋นั้น เกินกว่า 10 คันแล้วอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ SKYLINE GT-R ที่คุณเอ๋ ชื่นชอบเป็นพิเศษ และได้ครอบครองมาแล้วทุกรุ่น แต่ SKYLINE GT-R R32 กลับเป็นคันที่ประทับใจและเป็น 1 ในคันที่คุณเอ๋ตั้งใจจะเก็บสะสมไว้ มันต้องมีอะไรพิเศษแน่นอน 


อันดับที่ 4 Nissan Skyline R33


ประวัติ Nissan Skyline R33

Nissan Skyline ชื่อนี้เชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยได้ยิน และรู้จัก หรือแม้กระทั่ง หลายๆคนที่อาจจะเคยได้สัมผัสและครอบครอง ไม่รุ่นใดก็รุ่นหนึ่ง ย้อนกลับไปสักช่วงปี 2540 ซึ่งเป็นช่วงสมัยที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ใหม่ๆ กำลังเป็นช่วงที่เรียกได้ว่ากำลังชอบ และบ้าแต่งรถเป็นชีวิตจิตใจ และได้มีโอกาสไปสัมผัสกับวงการมอเตอร์สปอร์ตเป็นครั้งแรกก็ช่วงนี้ นั่นก็คือ การแข่งขัน ควอเตอร์ไมล์ ไม่ว่าที่สนาม พีระเซอร์กิต,สนามคลอง6,สนามไทยแลนด์เซอร์กิต นครปฐม หรือ สนามบินราชบุรี ซึ่งในช่วงนั้นก็มีรถแรงๆหลายๆคัน ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง วางเครื่อง ปิ๊คอัพวางเครื่อง รถสปอร์ตสายพันธุ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Evo,RX-7,Supra,Nsx หรือแม้กระทั่ง สิงห์คะนองนา ที่เป็นตำนานในยุคนั้น แต่ส่วนตัวกลับมีความหลงไหลและชื่นชอบ รถยนต์อยู่รุ่นหนึ่ง นั่นก็คือ เจ้า Nissan Skyline GT-R R33(Bcnr33) ซึ่งในตอนนั้นไม่มีโอกาสที่จะได้ครอบครอง วันเวลาผ่านไป อายุอานามมากขึ้น การงานมั่นคง มีครอบครัวที่อุ่นและเข้าใจ จึงมีความคิดอยากจะสานฝันในช่วงวัยรุ่นให้สำเร็จ จึงเป็นที่มาของรีวิวนี้ครับ Nissan Skyline GT-R R33

อันดับที่ 5 Nissan Cefiro A31

Nissan Cefiro A31



ประวัติ Nissan Cefiro A31

Nissan Cefiro A31 เริ่มออกขายในญี่ปุ่นช่วงปี 1988-1994 แต่ในประเทศไทย Nissan Cefiro A31 เริ่มขายระหว่างปี 1990-1996 โดยช้ากว่าที่ประเทศญี่ปุ่น  มีจุดเด่นตรงที่การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ (ในสมัยนั้น) มาลงในรถ เช่น ระบบการเปิดไฟหน้า และควบคุมแสงหน้าปัดอัตโนมัติ  โดยมีตัวรับแสงคอยจับปริมาณแสง และส่งข้อมูลไปที่ระบบอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อมืดลง ไฟจะสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติ และระบบโช้คอัพไฟฟ้าที่มีตัวจับสภาพพื้นผิวถนนที่สามารถปรับแข็งอ่อนได้ตามความต้องการเป็นต้น

นอกจากนี้ Nissan Cefiro A31 ยังเป็นรถญี่ปุ่นรุ่นแรกที่มีการใช้เกียร์ระบบอัตโนมัติ 5 สปีด (ในปัจจุบัน รถญี่ปุ่นบางรุ่น ยังใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีดอยู่ ไม่ใช่ 5 สปีด) และนอกจากนี้ยังได้ออกแบบผสมผสานความเป็นรถสปอร์ตเข้าไปด้วย ห้องโดยสารจึงมีขนาดเล็ก


อันดับที่ 6  Porsche 911

Geneva MotorShow 2013 - Porsche 911 GT3.jpg


ประวัติ  Porsche 911



"พอร์ช 911" เป็นรุ่นสปอร์ต จีที คูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง ขับเคลื่อน 4 ล้อ 6 สูบผลิตโดย ปอร์เช่ ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในรุ่นที่เก่าที่สุดของยี่ห้อนี้เนื่องจาก ผลิตมาตั้งแต่ ปี 1963-ปัจจุบัน ซึ่งเป็นต้นแบบ ของรุ่นอื่นๆอีกหลายรุ่นของ พอร์ช เช่น "ปอร์เช่ บ๊อกซ์เตอร์ " , "ปอร์เช่ เคย์แมน" และรวมถึง "ปอร์เช่ คาร์เรร่า จีที" จุดเด่นของรุ่นนี้ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์กว่ายี่ห้ออื่นๆ นั่นคือ ตั้งแต่โฉมแรกจนถึงปัจจุบัน จะมีตากลมคู่ ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญของยี่ห้อนี้ไปในตัว จึงทำให้ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา พอร์ช เน้นออกแบบโดยยึดเอกลักษณ์นี้เป็นหลัก

ปอร์เช่ 911 ยังคงได้รับการจัดอันดับเป็นคูเป้-โรสเตอร์ แถวหน้าของโลก แม้แต่ ยี่ห้อ รูฟ (Ruf) ก็นำตัวถังจากรุ่นนี้ มาเสริมแต่งเครื่องอีกที เช่น [1]Ruf RGT , Ruf 997 R Kompressor , Ruf 997 RTurbo , Ruf Rt 12

ในปี 1999 โพลต์สำหรับรางวัล "รถแห่งศตวรรษ(Car of the Century) " ได้โหวต ปอร์เช่ 911 เป็นรถแห่งศตวรรษ อันดับ 5 [2]นอกจากนี้ ในปี 2004 นิตยสาร Sports Car International ให้ ปอร์เช่ 911 อยู่อันดับ 3 รถสปอร์ตที่ดีที่สุดในปี 1960 และ นิตยสาร Automobile Magazine โหวตให้อยู่อันดับ 2 จาก 100 คัน ในประเภท "รถที่เด็ดที่สุด"



อันดับที่ 7 Lotus




ประวัติ Lotus

โลทัส เป็นชื่อของรถสปอร์ทพันธุ์อังกฤษที่นักเลงทั่วโลกรู้จักกันดี สัญลักษณ์ของรถยี่ห้อนี้ เปลี่ยนแปลงมาแล้วหลายครั้งสัญลักษณ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือ อักษร C ตัวใหญ่ที่ปรากฎในสัญลักษณ์ดังกล่าว เป็นอักษรตัวแรกของชื่อ COLIN SHAPMAN ผู้ก่อตั้งกิจการ ส่วนอักษร B อักษร C และอักษร A ตัวเล็ก ย่อมาจาก BRITISH CAR AUCTIONS ซึ่งเคยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ โคลิน แชพแมน (COLIN SHAPMAN) ผู้ก่อตั้งโลทัส นับเป็นบุคคลระดับ “อัจฉริยะ” เขาเกิดเมื่อปี 1928 ที่เมืองริชมอนด์ ในประเทศอังกฤษ และได้รับปริญญาวิศวกรรมโครงสร้างจากมหาวิทยาลัยลอนดอนเมื่อมีอายุเพียง 20 ปี แต่แทนที่จะประกอบอาชีพเป็นวิศวกรโครงสร้างตามที่ร่ำเรียนมา แชพแมนผู้หลงใหลใฝ่ฝันเรื่องของรถยนต์และกีฬาแข่งรถมาแต่เด็ก กลับก่อตั้งบริษัท โลทัส เอนจิเนียริง (LOTUS ENGINEERING CO.) ขึ้นเมื่อปี 1952 แล้วออกแบบและสร้างรถแข่งและสปอร์ทออกจำหน่าย โดยสั่งซื้ออุปกรณ์และชิ้นส่วนจากผู้ผลิตรายอื่น ๆ มาดัดแปลงและประกอบเป็นคันรถ

กิจการของโลทัสก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ควบคู่กับความสำเร็จในสนามแข่งรถ จนกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ใครก็ตามที่รู้จักกีฬาแข่งรถ ย่อมรู้จักชื่อโลทัสและโคลิน แชพแมน ความสำเร็จของรถโลทัสในสนามแข่งรถทั้งระดับชาติและระดับโลก ยากที่จะหาใครเทียมทันเฉพาะการแข่งรถฟอร์มูลา 1 ชิงแชมป์โลกอันกระเดื่องเกียรติรถโลทัสคว้าตำแหน่งชนะเสิศมาแล้วรวม 79 ครั้ง กับสามารถคว้าตำแหน่งแชมป์โลกผู้สร้างรถถึง 7 ครั้ง และตำแหน่งแชมป็โลกนักขับอีก 6 ครั้ง โคลิน แชพแมนถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจเมื่อเดือนธันวาคม 1982 ในขณะที่โลทัสกำลังประสบปัญหาด้านการเงินมรณกรรมของเขาส่งผลเป็นอย่างมากต่อฐานะของบริษัท และเพียง 3 ปี หลังจากนั้นกิจการผลิตรถยนต์ของโลทัสก็ถูกเทคโอเวอร์โดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ-อเมริกา คือ เจเนอรัล มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน แต่กิจการของทีมแข่งรถยังคงเป็นสมบัติของครอบครัวแชพแมนตราบจนปัจจุบัน รถโลทัสในตลาดรถยนต์ปัจจุบัน มีอยู่เพียง 3 อนุกรม คือ โลทัส อีแลน (LOTUS ELAN) โล-ทัสเอกเซล (LOTUS EXCEL) และโลทัสเอสปรัต์ (LOTUS ESPRIT)








นาฬกาสุดฮิตของวัยรุ่น



นาฬิกาสุดฮิตของวัยรุ่น


  1. Casio G-Shock Rastafarian Collection
          เมื่อพูดถึงนาฬิกาข้อมือสำหรับผู้ชายแล้ว หากไม่พูดถึงแบรนด์ จี-ช็อก เลยก็ยังไง ๆ อยู่ เพราะแต่ละรุ่นแต่ละลายก็มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันเอง ซึ่งแฟนคลับของจี-ช็อกหลาย ๆ คนก็น่าจะรู้สึกคล้ายกันอย่างหนึ่งว่า แม้จะเป็นนาฬิกาคอลเลคชั่นเดียวกัน แต่ก็อยากสะสมให้ครบทุกสีไปเลย (ถึงจริง ๆ จะไม่ได้ใส่ครบก็เถอะ) โดยเฉพาะคอลเลคชั่นสีสันเจ็บจี๊ดอย่าง รัสตาฟาเรียน ที่รับรองว่าหากได้ปรากฏอยู่บนข้อมือหนุ่ม ๆ แล้ว เป็นต้องโดดเด่นสะดุดตาสาว ๆ อย่างแน่นอน ยิ่งเป็นรุ่นสีเหลืองเขียวด้วยแล้วนะ เกิดสุด ๆ 

Casio Edifice

          2. Casio Edifice: EFA-131D-1A1V

          สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ชอบนาฬิกาข้อมือที่ดูเนี้ยบ ๆ หน่อย เอาไว้ใส่กับชุดที่ดูเป็นทางการนิดนึง และราคาไม่โหดมาก ก็ต้องเมียงมองลองเปิดใจให้กับให้กับคาสิโอสายพันธุ์ดิจิตอล+อนาล็อกรุ่นนี้ ด้วยหน้าปัดที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง ทนทาน ผสานกับสายนาฬิกาสีเงินที่ทำขึ้นจากสเตนเลส ทำให้มันดูเท่และหรูหราภายในเวลาเดียวกัน
FS4702
          3. Fossil: FS4702

          หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่หลงใหลในความลุ่มลึกผสมความสปอร์ตอยู่ในตัว นาฬืกาข้อมือจากฟอสซิลรุ่นนี้ก็ไม่น่าทำให้ผิดหวัง เพราะเพียงแค่แรกเห็นก็ต้องทึ่งในความลงตัวที่ทางผู้ผลิตจับมาผสมผสานกันอย่างพอเหมาะพอเจาะ ระหว่างตัวเรือนที่ทำจากสเตนเลส สตีล กระจกแบบ Mineral  และสายนาฬิกาทำด้วยซิลิโคนนุ่ม ๆ ซึ่งโดยรวมของตัวมันนั้นฉาบด้วยสีน้ำตาลเข้ม มองดูแล้วให้กลิ่นอายความคลาสสิก ที่มีความร่วมสมัยในเวลาเดียวกัน

dz4245

dz4245

          4. Diesel: dz4245 

          พูดถึงนาฬิกาจากฟอสซิลกันไปแล้ว ถ้าจะไม่พูดถึงดีเซลก็ยังไงอยู่ เพราะด้วยความที่ทั้งสองแบรนด์มีกลุ่มเป้าหมายคล้าย ๆ กัน โดยคุณผู้ชายที่ชอบนาฬิกาที่มีความสมบุกสมบัน ใส่ผจญภัยตามทริปแอดเวนเจอร์ต่าง ๆ ได้แบบไม่ต้องกลัวเปรอะเปื้อนหรือบุบสลาย ก็คงต้องใช้บริการของดีเซล dz4245 เพราะเพียงแค่แรกเห็นที่สายตาได้สัมผัสกับหน้าปัดที่ใหญ่โต แต่ไม่เทอะทะเกินไป (สำหรับผู้ชาย) ก็ทำให้ใครหลายคนต้องตกหลุมรักในความเท่ของมันอย่างไม่ต้องสงสัย แม้หน้าตาจะดูเรียบง่าย ทว่าความเรียบของมันนี่แหละ ที่ทำให้ dz4245 น่าสนใจยิ่งนัก แล้วเมื่อนำมาประกอบเข้ากับสายหนังสีน้ำตาลไหม้ ก็ยิ่งขับความโดดเด่นออกมาได้อีกเท่าตัวเลยทีเดียว

Adidas Santiago

          5. Adidas Santiago 

          มาดูกันต่อกับคอลเลคชั่นนาฬิกาข้อมือสไตล์สปอร์ตจากทางอาดิดาส รุ่น ซานติอาโก้ ที่ปล่อยออกมาทีเดียวหลากสีสัน เพื่อให้หนุ่ม ๆ ที่กำลังมองหานาฬิกาทรงสปอร์ตที่มีความเป็นแฟชั่นอยู่ในตัวเลือกหามาใส่กัน โดยคอลเลคชั่นนี้จะเป็นนาฬิกาชนิดเข็มบอกเวลา ตัวเรือนทำจากยางเรซินที่มีความเหนียวหนึบ ทนทาน อีกทั้งยังมีจุดเด่นสำคัญอยู่ที่กลางหน้าปัดนาฬิกาที่มีโลโก้ของอาดิดาสประทับไว้ด้วย

 Collection Spring-Summer 2013

 Collection Spring-Summer 2013

          6. Swatch: Collection Spring-Summer 2013

          หนึ่งในคอลเลคชั่น สปริง-ซัมเมอร์ ปี 2013 จาก สวอตช์ รุ่นนี้ น่าจะฮิตติดลมบนได้ไม่ยาก ด้วยความเรียบง่ายของสายนาฬิกาที่ถูกออกแบบให้มีสีขาวขุ่นแบบน้ำนม ตกแต่งด้วยสีสันเล็ก ๆ น้อย ๆ จากลวดลายบริเวณหน้าปัด ทำให้นาฬิกาข้อมือแบรนด์ขวัญใจวัยรุ่นชิ้นนี้ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชายที่ชอบความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยสิ่งที่ดูน่าค้นหาได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับสวมใส่เดินเล่นในวันชิล ๆ บรรยากาศสบาย ๆ 


 Barca Sportura Special Edition SNAE75

 Barca Sportura Special Edition SNAE75

          7. Seiko: Barca Sportura Special Edition SNAE75

          คอบอลแฟนพันธุ์แท้ของสโมสรบาร์เซโลนา น่าจะถูกอกถูกใจกับนาฬิกาข้อมือจาก ไซโก รุ่น บาร์ซ่า สปอร์ตทูรา สเปเชี่ยล อิดิชั่น ได้ไม่ยาก นอกจากดีไซน์การออกแบบที่สวยงามเหมาะกับผู้ชายสมัยใหม่แล้ว สิ่งที่ทำให้นาฬิการุ่นนี้พิเศษมากขึ้นก็อยู่ตรงที่ตราสโมสรบาร์เซโลนาที่ประทับอยู่บนหน้าปัดนั่นเอง โดยใช้ระบบการทำงานแบบโครโนกราฟ กันน้ำลึกได้ 100 เมตร งานนี้แฟนบอลเจ้าบุญทุ่มต้องไม่พลาดสอยมาเป็นเจ้าของแน่นอน

Formula 1 Limited Edition

          8. TAG Heuer: Formula 1 Limited Edition

          ไม่มีใครไม่รู้จักนาฬิกาแบรนด์ดังสุดหรูยี่ห้อดังอย่าง แทค ฮอยเออร์ แน่นอน โดยเฉพาะเมื่อเป็นรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น สำหรับ รถแข่ง ฟอร์มูล่า วัน ด้วยแล้ว ดีกรีความร้อนแรงของมันยิ่งทวีคูณขึ้นอีก โดยทาง แทค ฮอยเออร์ ได้ผลิตนาฬิกาพิเศษนี่ออกมา 2 รุ่น สำหรับผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งแบบของผู้ชายทำออกมาได้หน้าดูชมจริง ๆ แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ ของแทคที่เน้นความหรูหราซะเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับรุ่น ฟอร์มูล่า วัน นั้นจะให้ความรู้สึกทรงพลังมากกว่า เพราะตัวเรือนและสายนาฬิกาตกแต่งด้วยสีดำทั้งหมด

 Larry Chronograph 46MM
          9. Marc jacob: Larry Chronograph 46MM
          สำหรับหนุ่ม ๆ ที่กำลังมองหานาฬิกาข้อมือที่ให้ความหรูหรา เหมาะเป็นเครื่องประดับไปด้วยในตัว Larry Chronograph 46MM จาก มาร์ค จาค็อบ น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของใครหลายคนได้ไม่มากก็น้อย ด้วยดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา ตัวเรือนทำด้วยสเตนเลส สตีลสีดำ ตัดกับเข็มและเลขบนหน้าปัดที่จะเรืองแสงในที่มืดได้เป็นอย่างดี

Super Meccanico

           10. Armani Limited Edition: Super Meccanico

          ปิดท้ายกันด้วยนาฬิกาข้อมือจาก อาร์มานี่ ที่รับประกันได้ว่าคุณผู้ชายทั้งที่เป็นแฟนของแบรนด์อาร์มานี่หรือไม่ได้เป็นก็ตาม จะต้องหลงเสน่ห์นาฬิการุ่น ลิมิเต็ด อิดิชั่น รุ่นนี้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมันช่างดูเท่ ใส่ได้กับหลาย ๆ โอกาส และเสื้อผ้าที่ใส่ ไม่ดูหรูหรือสปอร์ตจนเกินไป หน้าปัดถูกประดับตกแต่งด้วยแซฟไฟร์ คริสตัล ส่วนตัวหน้าปัดรอบนอกก็ใช้สเตนเลส สตีล ที่เกิดจากงานฝีมือของช่างผู้ชำนาญการ ส่วนสายนาฬิกาเลือกใช้ยางสีดำคุณภาพดีมาทำ

       

10 อาหาร อันตราย ทำร้ายสุขภาพ วัยรุ่น !!



10 อาหาร อันตราย ทำร้ายสุขภาพ วัยรุ่น !!


อาหารหลายอย่างก็ล้วนมีคุณค่าทางอาหาร ดีต่อสุขภาพมากมาย แต่! ก็ยังมีอาหารที่กินแล้วไม่ได้ประโยชน์แถมให้โทษซะด้วยสิ .. ขอบอกว่าอาหารพวกนี้ วัยรุ่น รู้จักกันดีเชียวแหละ จะมีอะไรบ้างนะ ไปดูกัน ..
1.แฮมเบอเกอร์ แฮมเบอร์เกอร์ทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้น และนำมาบดทำเป็นเบอร์เกอร์ รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก หูและส่วนอื่นๆของมัน เพราะว่าเบอร์เกอร์ทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (Pure beef)แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่สารปรุงรส (MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ MSG เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น และท้ายที่สุดก็ทำให้ท่านอ้วนขึ้นด้วย อุตสาหกรรมปศุสัตว์ เป็นผู้ใช้ยาปฏิชีวนะมากที่สุดในโลก เพื่อใช้ในการหักล้างแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในเนื้อ
2.ฮอทด็อก ฮอทด็อกทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้น และนำมาบดทำเป็นเบอร์เกอร์ รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก สันจมูก หู เล็บและส่วนอื่นๆของมัน เพราะว่าฮอทด็อกทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (Pure beef) หรือ ทำจากไก่งวงแท้ 100%
3.เฟรนช์ฟราย เป็นอาหารที่มี ?ความเป็นพิษสูง?การทอดเฟร้นช์ฟราย จะทอดกันที่อุณหภูมิสูง ทำให้มีสารเคมีอะคริลิไมด์(Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาท
4.โอริโอ้ คุ๊กกี้ ที่เด่นชัดมากก็คือ ส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว ช็อกโกเล็ตนั้นเป็นสารอาหารรายการสุดท้าย นั่นหมายความว่า มีช็อคโกเล็ตประกอบอยู่น้อยมาก น้ำตาลปริมาณสูง ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น
5.พิซซ่า พิซซ่าในเชิงทางการค้าจะประกอบไปด้วยอาหารที่มาจากการตัดแต่งทางพันธุ์กรรม 5 ชนิด
- เนยแท้ (cheese) เพียง 10% เท่านั้น
- แป้งที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้ว แต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตามจำนวนโมเลกุลที่มันเคยมีอยู่เข้าไปใหม่
- ซอสมะเขือเทศ ทำด้วยสารที่คล้ายมะเขือเทศที่สร้างยาฆ่าแมลงของมันขึ้นมาได้เอง ในร่างกายของท่าน
- แป้งสาลีที่นำมาใช้เป็นแป้งชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุ์กรรม
- มีน้ำมันฝ้ายประกอบอยู่ด้วย ฝ้ายไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้
6.น้ำอัดลม สารตัวสำคัญที่มีอยู่ในโค้กก็คือกรดกำมะถัน (Phosphoric acid) ในด้านความเป็นกรดด่าง มันมีความเป็นกรดอยู่สูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วันกรดที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้
7.ชิ้นไก่เนี้อนุ่มไม่มีกระดูก ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ไม่ใช้แล้ว น้อยมากที่จะทำมาจากเนื้อขาวจริงๆการรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไป จะให้พลังงาน 340 แคลอรี่ 50% เป็นไขมันมีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส (MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะ
8.ไอศครีม มีไขมันอยู่สูงมาก (ขนาดปกติ 4 ออนซ์) มีไขมันเกินกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันมีคาร์โบไฮเดรตอยู่มาก เกือบ 40% ของคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันมีน้ำตาลอยู่มาก ทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น
9.โดนัท โดยเฉลี่ยแล้ว จะให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ ในโดนัทหนึ่งชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50% ของที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีเกลือโซเดียมอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดน้ำได้
10.โปเตโต้ชิพ อาหารขบเคี้ยว การทอดโปเตโต้ชิพจะทอดกันที่อุณหภูมิสูงทำให้มีสารเคมีอะคริลิไมด์ (Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาท กินมันฝรั่งทอดเพียงวันละ 1 ถุง เท่ากับซดน้ำมันพืชปีละ 5 ลิตรเชียวนะ

วัยรุ่นกับโทรศัพท์มือถือ


วัยรุ่นกับโทรศัพท์มือถือ


      ในยุคสมัยใหม่หรือบางคนก็กล่าวว่าเป็นยุคหลังสมัยใหม่ไปเรียบร้อยเมื่อนมนานแล้ว โทรศัพท์มือถือกลายเป็นวัตถุยอดนิยมที่เข้ามามีความสัมพันธ์กับมนุษย์อยู่เป็นอย่างดาษดื่น เพื่อสร้างการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วให้สอดคล้องกับระบบเวลาแบบอุตสาหกรรมและการไล่ทันแข่งขันกับผู้อื่น หรือการเอาชีวิตของมนุษย์ให้อยู่รอดในโลกนี้อย่างชาญฉลาดให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกอย่างรวดเร็ว
       แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าโทรศัพท์มือถือ ในฐานะวัตถุแห่งความทันสมัยนั้น แต่ละคนย่อมให้ความหมายที่แตกต่างกันและการให้เหตุผลของการครอบครองโทรศัพท์มือถือที่แตกต่างหลากหลาย แต่คนเรามักจะใช้สามัญสำนึกแบบตื้นเขินเข้ามาตัดสินคุณค่าของการถือวัตถุหรือการกระทำต่างๆ ด้วยการใช้ความคิดที่คับแคบกันอยู่หรือการคิดแบบตายด้าน จนทำให้เกิดการสร้างไม่ความเข้าใจระหว่างความสัมพันธ์ต่อกันและกัน จนนำมาสู่ปัญหามากมาย
       สำหรับในสังคมไทยยุคสมัยใหม่ วัยรุ่นกับโทรศัพท์มือถือเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งของที่สามารถตีความเหตุผลและความรู้สึก เพื่อก่อรูปความเข้าใจกับความสัมพันธ์เชิงวัตถุนี้ได้ เราควรจะใช้ระบบความรู้และความคิดอยู่เป็นอย่างคณานับ แม้ว่าประเด็นนี้แลดูอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาก็ตาม แต่ความธรรมดาหรือความสามัญ ก็ใช่ว่าคนจะเข้าใจกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างรอบด้านและถูกต้องอยู่อย่างเสมอไป
      เรามิควรดัดจริตตามก้นความคิดแบบผู้ใหญ่ที่มีการศึกษาหรือไม่มีการศึกษาหลายๆท่าน (ไม่ใช่ทุกคน และมิได้หมายถึงว่าคนมีการศึกษาในความหมายที่กล่าวว่าจะคิดเป็นเสมอไป) กล่าวไว้ว่า การซื้อวัตถุโทรศัพท์มือถือให้กับเด็กวัยรุ่นนั้นหรือเด็กตัวเล็กๆที่ยังไม่ใช่วัยรุ่นก็ตามนั้นเป็นการสร้างนิสัยแก่เด็กให้เป็นพวกฟุ่มเฟือย หรือจะเรียกให้เป็นวิชาการที่สวยงาม คือ ลัทธิบริโภคนิยมกำลังเข้าครอบงำอยู่ทุกอณูของชีวิตวัยรุ่นอยู่ ทำไมเขามองแบบนั้นเพราะว่า หลักการง่ายๆที่สุด คือ พวกเด็กวัยรุ่นเป็นกลุ่มคนที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง จะกล่าวให้ดีก็ควรกล่าวว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนยังแบมือของตังค์ผู้ปกครองอยู่นั่นเอง
       นั่นกลายเป็นเหตุผลหลักๆที่สำคัญของการกล่าวอ้างเพื่อนิยมวาจาแบบผักชีเพื่อให้ตนดูดีและรอดตัวไปเพียงเท่านั้นเอง แต่เหตุไฉนเล่าที่ผู้ใหญ่กลับปากไม่ตรงกับใจเสียอย่างงั้น วาจาที่เอื้อนออกมาก็ดูงามที แต่สุดท้ายแล้ว พวกท่านทั้งหลายกลับจำต้องยอมแพ้พ่ายลัทธิบริโภคนิยม เพราะอะไรหรือก็เพราะว่า ถ้าจะสรุปเอาให้ดูดี แต่ก็มิใช่คำตอบสำเร็จรูป ก็ควรกล่าวว่าสังคมไทยมีความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน จะเอาหน้าให้รอหรือจะเร่งปลูกผักชีทั้งที ก็สมาทานทุกอย่างที่เห็นว่าเป็นของชั้นสูง อันเข้าถึงได้ยากเข้ามาครอบครอง แต่ทุนนิยมกลับฉลาดเฉลียวที่ทำให้สินค้าของพวกเขาเข้าได้ทุกชนชั้นอาชีพ แม้ว่าสังคมโลกหรือสังคมไทยก็ตามยังดำรงชนชั้นอยู่มากก็ตาม
         เราอาจจะมองผิดไปที่เห็นบริโภคนิยมดูดกลืนมนุษย์ให้ตกเป็นทาสของลัทธินี้เข้าทุกที แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อคนเริ่มรู้จักการติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น จะทำทุกอย่างเพื่อให้เท่าทันกับเวลาแบบใหม่ที่เป็นอุตสาหกรรมที่เน้นการมองเวลาเป็นเชิงก้าวหน้า การนับถอยหลัง เพื่อเป้าหมายความสำเร็จที่เติบใหญ่กว่าเดิม
          ดังนั้น วัยรุ่นก็เช่นกันที่มีโทรศัพท์มือถือนั้น ก็มีผู้ปกครองที่ทำงานจนหลังอาน ไม่มีเวลาให้ลูกหลานเหมือนสมัยเก่าก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้ การทดแทนความรักก็ถูกสื่อด้วยการใช้วัตถุสื่อเป็นสำคัญ หรือถ้าจะกล่าวให้ดี พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กวัยรุ่นทั้งหลาย (หรือแม้แต่เด็กตัวเล็กๆที่ยังกำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่นหรือยังเป็นเด็กเมื่อวานซืน) กลัวบุตรหลายของตนจะน้อยหน้ากว่าเพื่อนของเด็ก กลัวเด็กน้อยใจ กระจองอแงและแล้วนั้นพวกผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ทนความไม่เท่าเทียมอยู่ไม่ไหวนั้นเอง จึงตอบแทนด้วยการซื้อโทรศัพท์มือถือให้ลูกใช้กันอย่างาดาษดื่น
        ตัวอย่างของการเห็นและเข้าใจวัยรุ่นกับโทรศัทท์มือถือ เช่นว่า เด็กวัยรุ่นยุคนี้เรียนหนังสือกันจนจะอาเจียน ไหนจะทำงาน ทำการบ้าน ไหนจะสอบจนตาแทบลาย เวลาไม่เคยเว้นว่างให้เขามีพื้นที่และเวลาเข้าผูกพันอยู่กับความสดใสมากนัก นี่คือ เด็กเรียน ส่วนเด็กไม่เรียนก็จะสดใสสนุกสนานมากกว่าการจริงจังกว่าการเรียน ไม่ว่าจะจริงจังหรือจะสดใส อารมณ์ใดก็ลงเอยด้วยหยิบมือถือกดเข้าไปหาเพื่อน ให้ทำงานให้เสร็จ เร่งงานการบ้านที่อาจารย์สั่งให้เสร็จโดยไว หรือมีปัญหากับแฟนหรือกับผองเพื่อน เด็กหลายคนกลัวความอาวุโส ก็โทรคุยกับเพื่อนนั้นแหละ แล้วไง ก็ให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเขานั้นไม่ถูกกดทับจนอัดความเครียดให้แน่นหนักและโทรศัพท์มือถือก็ช่วยผ่อนคลายภาระการงานหรือชีวิตส่วนใหญ่ของเด็กวัยรุ่นหลายประการ
       จากตัวอย่างข้างต้นที่กล่าวไป คงจะพอช่วยชี้ทำให้เกิดความเข้าใจบ้างต่อเด็กวัยรุ่นว่าการใช้มือถือก็ถือว่าเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่งในชีวิตของเขา สำหรับในทัศนะของผมนั้น ผมก็คิดว่าแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน เราจะเอาบรรทัดฐานของเรา ที่ผมมักมองว่าเป็นสิ่งไม่จำเป็นหรือเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ก็จะเอาไปตีขีดเส้นความคิดคนอื่นเขาไม่ได้ หรือจะไปห้ามให้ผู้ปกครองห้ามซื้อมือถือให้เด็กหรือเด็กที่มีปัญญาซื้อมือถือก็ไม่ควรซื้อ อย่างนี้ก็ไม่ได้นะ แต่ว่าถ้าจะมองบริบทและช่วงวัยนั้น ผมเห็นว่าเด็กวัยรุ่นก็ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือแบบถลุงเงินผู้ปกครองอย่างหนักหน่วง ควรรู้จักมัธยัสถ์นิยมบ้าง ไม่ใช่ไม่เป็นเรื่องคุยจำเป็นก็ดีดักจะเอาแต่โทรไปตลอดเวลา แต่ควรจะโทรในธุระที่จำเป็นหรือเป็นเหตุผลจำเป็นที่ควรโทรจริงๆ พูดง่ายๆก็คือ โทรคุยเท่าที่จำเป็นและสำคัญจริงๆ หรือจะให้ดีก็ควรทำงานหาเงินเพื่อลดเบาภาระกระเป๋าตังค์ของคนที่อุปถัมภ์ดูแลคุณอยู่!
        จริงอยู่ว่าโทรศัพท์เป็นอำนาจอย่างหนึ่งในแง่ของการสื่อสาร เมื่อระบบเวลายังเร่งเร้าให้ชีวิตของคนในสังคมเกิดความเครียด หากว่าโทรศัพท์มือถือถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความสอดคล้องจำเป็นกับภาระอันหนักอึ้งไปได้ แม้ว่าผู้ใหญ่บางท่าน ผู้ใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือนั้นดีกว่าเด็กใช้โทรศัพท์มือถือ เพราะเพียงจะอ้างเอาว่าให้รายได้ในมือเพิ่มขึ้น เช่น ถ้าคุณรับจ้างตัดหญ้า คุณไม่มีเบอร์โทรศัพท์มือถือ ก็ขาดลูกค้า ถ้ามีเบอร์โทรติดต่อ ก็จะทำให้จัดคิวผู้จ้างคุณได้ง่าย เป็นต้น ก็คงจะเอาส่วนใดส่วนหนึ่งของชีวิตผู้ใหญ่มาเทียบอ้างกับเด็กวัยรุ่นไม่ได้ ถ้าคุณยังกลัวเด็กน้อยหน้าคนอื่น กลัวมีไม่เท่าเทียมคนอื่น ก็อย่าเอ่ยปากมาดีกว่า พูดไปก็เท่านั้น ไม่มีประโยชน์ ควรจะเข้าใจก่อน แล้วสร้างกรอบคิดและกรอบการใช้โทรศัพท์มือถือให้เกิดประโยชน์และรู้จักมัธยัสถ์อย่างแท้จริง
          ยิ่งถ้าจะกล่าว่วถึงตัวผม ในบริบทสังคมในมหาวิทยาลัย พื้นที่ที่อุดมไปด้วยคนชั้นกลางไฟแรง ก็ยิ่งควรพิจารณาพื้นที่ของเมือง ซึ่งมหาวิทยาลัยของไทยส่วนมากก็อยู่ในสังคมเมืองแบบใหม่กันทั้งนั้น บางคนก็เป็นเด็กในเมือง บางคนก็มาจากบ้านอก จากบ้านจากเมืองมาก็ไกล เหงาคิดถึงบ้านก็โทรคุยกับคนในครอบครัว มีเพื่อนบางคนผมบอกกับผมว่าโทรศัพท์มือถือจำเป็นมากสำหรับชีวิตเขา เกิดพ่อแม่เป็นอะไรมา ไม่สบายขึ้นมา หรือถ้ามีธุระอย่างอื่นๆก็จะได้ติดต่อกันอย่างรวดเร็ว เช่น ถ้านักศึกษาจะขอรับทุนการศึกษา จำเป็นต้องใชหลักฐานที่สำคัญของผู้ปกครอง ก็จะได้รีบเร่งด่วนโทรมา เพื่อให้ทันเวลากำหนดส่งใบขอรับทุนการศึกษา เป็นต้น นอกจากนั้น ก็เป็นเหตุผลธรรมดาที่ไม่ธรรมดาอยู่ทั่วไปของวัยรุ่นที่ใช้มือถือกันอยู่ทั่วไป ซึ่งไม่ควรกล่าวแบบวัตถุช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้กับผู้ใช้แต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งก็จริง แต่ก็ต้องจำเป็นพิจารณาให้รอบด้านด้วย
         ดังนั้น วัยรุ่นกับโทรศัพท์มือถือจึงไม่ใช่เรื่องของความฟุ่มเฟือยอีกต่อไป แต่ควรพิจารณาจากสิ่งที่กล่าวมาและสิ่งที่ผมยังมิได้กล่าวถึง ซึ่งยังมีอีกจำนวนมาก แต่เพื่อสร้างภาพความเข้าใจและความคิดแบบคร่าวๆคงจะพอทำให้ผู้อ่านได้ความคิดเพิ่มขึ้นและรู้จักเจนกับความใจกว้าง ไม่ใช่บีบอัดหนทางและสาดๆด่าๆว่าฟุ่มเฟือยแต่เพียงอย่างเดียว

รองเท้าผ้าใบของวัยรุ่น




รองเท้าผ้าใบของวัยรุ่น

           1. Vans
          รองเท้าแบรนด์ดังยอดนิยมสำหรับเด็กสเกตบอร์ดอย่าง แวนส์ ถือเป็นรองเท้าผ้าใบที่หนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่เลือกใช้บริการ ด้วยความที่สวมใส่สบาย ดีไซน์ไม่หวือหวาจัด และยังมีให้เลือกหลายแบบ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แวนส์จะกลายเป็นรองเท้าขายดีทั่วโลก

Onitsuka Tiger
           2. Onitsuka Tiger

          รองเท้าผ้าใบสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง โอนิซึกะ ไทเกอร์ คือรองเท้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่มองหารองเท้าที่ดูทะมัดทะแมง พร้อมใส่ลุยไปทุกที่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสวยงามของลวดลาย และสีสันที่ถูกแต่งแต้มบนลายคาด เชื่อเถอะว่าหากได้ซื้อมาใส่สักคู่หนึ่งแล้ว จะมีคู่ถัดไปตามมาอีกแน่นอน

New Balance
           3. New Balance
          รองเท้าสไตล์สปอร์ตที่มีโลโก้เป็นตัวอักษร "N" แปะอยู่ด้านข้างอย่าง นิว บาลานซ์ เป็นรองเท้าที่ใส่เมื่อไหร่ก็ดูดี ด้วยทรงรองเท้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสีสันที่มีให้เลือกใส่อีกมากมาย ทำให้ชื่อเสียงของนิว บาลานซ์ กระจายไปทั่วทุกมุมโลก

Converse
           4. Converse

          น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักรองเท้ายี่ห้อ คอนเวิร์ส เพราะรองเท้าหน้าตาเรียบ ๆ แต่ดูคลาสสิกนี้ ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ในอดีต จนกระทั่งถึงปัจจุบันก็ยังขายดิบขายดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีผู้ผลิตรองเท้าผ้าใบใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาอีกกี่ราย แต่คอนเวิร์สก็ไม่เคยตายจากแฟชั่นรองเท้าผ้าใบ และก็คงรักษาความนิยมนี้ไปได้อีกนานแสนนาน

Nike
           5. Nike
          แม้จะดูขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์หรือเสื้อผ้าสำหรับเล่นกีฬาหลายประเภท แต่คนทั่วโลกก็เชื่อมั่นในคุณภาพของรองเท้าจากไนกี้เสมอ ซึ่งถึงแม้ไนกี้จะเป็นรองเท้าเน้นคุณภาพ ทว่าก็ไม่ลืมใส่ความเป็นแฟชั่นลงไปด้วย ทำให้ผู้ใส่รู้สึกมั่นใจเสมอเมื่อได้ใส่ออกจากบ้าน

Adidas
           6. Adidas

          ผู้ผลิตอุปกรณ์และเสื้อผ้าจากประเทศเยอรมนีรายนี้ นับเป็นคู่แข่งสำคัญอีกหนึ่งรายของทางไนกี้ แต่จะว่าไปทั้งสองแบรนด์ต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทว่าสิ่งที่เหมือนกันก็คือพวกเขาเน้นรองเท้าผ้าใบที่สวมใส่สบาย และสามารถดึงดูดความน่าสนใจจากคนรอบข้างได้ด้วย ซึ่งเท่าที่กวาดตามองรอบ ๆ ตัวแล้ว อาดิดาส ก็ดูจะครองใจคนใส่อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

Reebok
           7. Reebok
          ถ้ามีรองเท้าผ้าใบจากอาดิดาสแล้ว จะไม่พูดถึง รีบ็อก ก็ยังไง ๆ อยู่ เพราะชื่อชั้นของรีบ็อกก็ไม่ได้เป็นสองรองใครเรื่องรองเท้าเช่นกัน ถึงดีไซน์อาจจะไม่จี๊ดจ๊าดมากเท่าไร ทว่าคุณภาพก็โดดเด่นพอตัวเลยล่ะ เหมาะกับคนที่ชอบรองเท้าแบบสมบุกสมบันมาก ๆ

Fred Perry
           8. Fred Perry

          เฟร็ด เพอร์รี่ คืออีกหนึ่งแบรนด์ที่หนุ่ม ๆ หลายคนเลือกใช้บริการ เพราะดีไซน์ที่ดูคลาสสิก เรียบง่ายแต่สะดุดตา ใส่ได้กับหลาย ๆ ชุด จึงทำให้มันกลายเป็นรองเท้าที่ควรมีไว้ติดบ้านเป็นอย่างยิ่ง แค่เลือกรุ่นที่บ่งบอกความเป็นตัวเองได้มากที่สุด เชื่อเถอะ มันจะกลายเป็นหนึ่งในรองเท้าคู่เก่งอย่างไม่ต้องสงสัย

DC
           9. DC

          รองเท้าผ้าใบจาก ดีซี นับเป็นรองเท้าที่เหล่าขาโจ๋วัยมันส์ยกให้เป็นรองเท้าในดวงใจอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งนอกจากจะเป็นรองเท้าใส่เล่นสเกตบอร์ดได้แล้ว ยังใส่เดินเล่นกับชุดเท่ ๆ ในวันว่างได้อีกด้วย มองมุมไหนก็ดูเฟี้ยวไปหมด แล้วแบบนี้จะให้อดใจไม่ถอยมาใส่ได้ยังไงไหวล่ะครับ

Volcom
           10. Volcom

          ปิดท้ายกันด้วยรองเท้าผ้าใบสวย ๆ จาก โวลคอม รองเท้าตัวจี๊ดของหนุ่ม ๆ มาดเท่ ที่ต้องมีไว้ครอบครอง โดยเฉพาะบรรดานักกีฬาแนวเอ็กซ์ตรีมทั้งหลาย ที่มักเลือกใช้บริการรองเท้ายี่ห้อนี้กันถ้วนหน้า ด้วยความที่ใส่สบาย ดีไซน์ก็แจ่ม จึงทำให้หลายคนอดหาซื้อมาใส่กันไม่ได้

          ทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียงแค่รองเท้าผ้าใบบางส่วนเท่านั้น ที่คุณผู้ชายนิยมใส่กัน เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีสักยี่ห้อติดอยู่ที่ตู้เก็บรองเท้าที่บ้านกันบ้างล่ะ แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้บริการรองเท้ารุ่นใด ขอให้เลือกใส่คู่ที่คิดว่าใส่แล้วมีความมั่นใจ และจะอยู่ติดเท้าไปอีกนานแล้วกัน เพราะมันคือคู่ทุกข์คู่ยากที่พร้อมจะพาคุณไปทุกที่ยังไงล่ะครับ

รองเท้าผ้าใบผู้ชาย